header-photo
 

ข่าวสารอาเซียน (ASEAN News)

 

มติเอกฉันท์! ‘หวอ วัน เถือง’ เป็นประธานาธิบดีคนใหม่เวียดนาม

ASEAN News

2 มีนาคม 2566 :   สภาแห่งชาติของเวียดนามเลือก หวอ วัน เถือง (Vo Van Thuong) เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ ในการสับเปลี่ยนผู้นำระดับสูงของประเทศท่ามกลางการปราบปรามการทุจริตรับสินบน

ในการประชุมวิสามัญ สมาชิกสภานิติบัญญัติรับรองหวอ วัน เถือง อายุ 52 ปี หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์เสนอชื่อเขาเมื่อวันพุธ (1) เป็นประธานาธิบดี ที่มีบทบาทส่วนใหญ่ในเชิงพิธีการแต่เป็นหนึ่งใน 4 ตำแหน่งทางการเมืองสูงสุดของประเทศ

การเลือกหวอ วัน เถือง เป็นประธานาธิบดีนี้ มีขึ้นหลังจากอดีตประธานาธิบดีเหวียน ซวน ฟุ้ก ลาออกอย่างกะทันหันในเดือน ม.ค. หลังจากพรรคได้กล่าวโทษว่าเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา ‘ละเมิดและกระทำความผิด’ ในสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นการยกระดับครั้งใหญ่องการปราบปรามการทุจริตของประเทศ

ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกของเขาต่อสภาในฐานะประธานาธิบดีคนใหม่ เถืองกล่าวว่าเขาจะดำเนินการต่อสู้กับการทุจริตอย่างแน่วแน่มั่นคงต่อไป

“ผมจะจงรักภักดีต่อปิตุภูมิ ประชาชน และรัฐธรรมนูญ มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากพรรค รัฐ และประชาชน” เถือง กล่าวถ้อยแถลงที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ของทางการเวียดนาม

เถืองเป็นสมาชิกอายุน้อยที่สุดในโปลิตบูโร องค์กรสูงสุดของพรรคที่ทำหน้าที่ตัดสินใจนโยบายสำคัญต่างๆ และถือเป็นผู้คร่ำหวอดในพรรค โดยเริ่มอาชีพทางการเมืองในองค์กรเยาวชนคอมมิวนิสต์ที่มหาวิทยาลัย

เขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากความใกล้ชิดกับเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเวียดนาม และยังเป็นแกนหลักของการต่อสู้กับการทุจริตของพรรค

 

ตัวแทนมูลนิธิ Konrad Adenauer Foundation ของเยอรมนีในเวียดนามกล่าวว่า การปราบปรามการทุจริตจะไม่ลดความร้อนแรงลงในอนาคตอันใกล้ ขณะที่นักการทูตและนักธุรกิจแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริตรับสินบน เนื่องจากทำให้การทำธุรกรรมตามปกติในเวียดนามเป็นอัมพาต เพราะเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเข้าไปพัวพันในการปราบปราม

นักการทูตในกรุงฮานอยกล่าวว่า การเลือกหวอ วัน เถือง ถือเป็นก้าวสำคัญของเลขาธิการจ่อง ท่ามกลางการแข่งขันชิงตำแหน่งของเขา ที่ผู้นำอายุ 78 ปีรายนี้อาจก้าวลงก่อนครบวาระสมัยที่ 3 ในปี 2569

ปกติแล้วตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคจะเลือกจากหนึ่งในผู้นำระดับสูงของประเทศ

หวอ วัน เถือง ได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียง 98.38% ตามข้อมูลที่ระบุบนเว็บไซต์ของสภา

นักวิเคราะห์และนักลงทุนมองว่าการแต่งตั้งครั้งนี้บ่งชี้ถึงความต่อเนื่องในนโยบายต่างประเทศและเศรษฐกิจ

“จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในด้านนโยบายต่างประเทศของเวียดนามหลังการเลือกหวอ วัน เถือง” นักวิชาการอาวุโสและผู้เชี่ยวชาญด้านเวียดนามจากสถาบัน ISEAS–Yusof Ishak สิงคโปร์ กล่าว

นักลงทุนต่างชาติในเวียดนามรายหนึ่งที่ปฏิเสธจะระบุชื่อกล่าวว่าการเลือกตั้งนี้ได้ยุติความไม่แน่นอนที่เกิดจากการปลดอดีตประธานาธิบดีอย่างกะทันหัน

“นั่นหมายความว่าเสถียรภาพและความสามารถในการคาดการณ์ได้ได้ฟื้นคืนกลับมา” นักลงทุนต่างชาติ กล่าว

เวียดนามเป็นผู้รับการลงทุนจากต่างชาติรายใหญ่ โดยผู้นำทางธุรกิจมักอ้างถึงเสถียรภาพทางการเมืองว่าเป็นเหตุผลหลักของการลงทุน.

แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์

กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน