สภาแห่งชาติรับรองการลาออกของประธานาธิบดีเวียดนาม ตั้งรอง ปธน.หญิงรักษาการ
|
18 มกราคม 2565 : สภานิติบัญญัติของเวียดนามได้อนุมัติการลาออกของประธานาธิบดีเหวียน ซวน ฟุ้ก ในวันนี้ (18) สื่อของรัฐรายงาน ท่ามกลางการรณรงค์ต่อต้านการรับสินบนของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
รองประธานาธิบดีหวอ ถิ แอ็งห์ ซวน จะทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี สื่อของรัฐรายงาน ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่าประธานาธิบดีคนใหม่น่าจะได้รับการเสนอชื่อในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งหน้าในเดือน พ.ค.
คณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์กล่าววานนี้ว่า เหวียน ซวน ฟุ้ก อายุ 68 ปี ได้ยื่นลาออกหลังพรรคคอมมิวนิสต์ที่ปกครองประเทศกล่าวโทษเขาจากการละเมิดและกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สุดท้ายแล้วฟุ้ก ต้องรับผิดชอบต่อความผิดที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่หลายคน รวมถึงรองนายกรัฐมนตรี 2 คน และรัฐมนตรีอีก 3 คน ในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 2559-2564 คณะกรรมการกลางพรรคระบุ
การลงมติของสภาแห่งชาติในวันพุธ (18) ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพียงขั้นตอน หลังจากเมื่อวันอังคาร (17) คณะกรรมการกลางพรรคระบุว่ายอมรับการลาออกของฟุ้ก
ทั้งนี้ รอยเตอร์ไม่สามารถติดต่อเหวียน ซวน ฟุ้ก เพื่อขอความคิดเห็นได้
นักการทูตและเจ้าหน้าที่ต่างชาติในเวียดนามบางคนกล่าวว่าเหตุการณ์ล่าสุดนี้อาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนจากต่างประเทศ
เสถียรภาพทางการเมืองเป็นปัจจัยดึงดูดสำคัญสำหรับบริษัทต่างชาติที่เข้าลงทุนในเวียดนาม ประเทศมีแนวโน้มที่จะเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากแผนของบริษัทระดับโลกที่จะลดการพึ่งพาจีน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากนโยบายโควิดของปักกิ่ง และความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ
“แม้ประธานาธิบดีที่ถูกขับพ้นตำแหน่งไปจะให้ความสำคัญกับธุรกิจมากกว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนในรัฐบาล แต่การบังคับให้ออกจากตำแหน่งของเขาไม่ควรถูกมองว่าเป็นการถอยห่างออกจากการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจและการเปิดกว้างต่อการลงทุนจากต่างชาติ” จอห์น มาร์เร็ตต์ นักวิเคราะห์อาวุโสจากหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของ The Economist กล่าว
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า เขามั่นใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนามจะยังคงดำเนินในทิศทางบวกต่อไป ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม
ฟุ้ก ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีบทบาททางพิธีการเป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่ปี 2564 ยังถูกปลดออกจากโปลิตบูโร และจากตำแหน่งประธานสภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติ
ทั้งนี้ เวียดนามไม่มีผู้ปกครองสูงสุด และอยู่ภายใต้การนำอย่างเป็นทางการของ 4 เสาหลักที่ประกอบด้วยเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และประธานสภาแห่งชาติ. |
แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์ |
กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน