 'รัฐบาลเงา' ปลุกคนพม่าทำสงครามล้มระบอบทหาร หลายเมืองใหญ่ ‘โกลาหล’ คนแห่ตุนอาหาร-ถอนเงิน
|
7 กันยายน 2564 :“รัฐบาลเงา” ที่เป็นฝ่ายต่อต้านในพม่า ออกมาเรียกร้องในวันอังคาร (7 ก.ย.) ให้ประชาชนทั่วประเทศลุกฮือทำสงครามกับคณะปกครองทหาร พร้อมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่กี่วันหลังจากผู้แทนของอาเซียนระบุว่า กองทัพพม่ายอมรับข้อเสนอหยุดยิงจนถึงสิ้นปีนี้ ปรากฏว่าข่าวนี้สร้างความแตกตื่น มีผู้คนในเมืองใหญ่ๆ รีบไปซื้อข้าวของมากักตุนไว้ อีกส่วนหนึ่งพากันไปถอนเงินสดออกจากธนาคาร
ดูวา ลาชิ ลา รักษาการประธานาธิบดีของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (เอ็นยูจี) ที่ประกาศตัวเป็นรัฐบาลเงา และประกอบด้วยสมาชิกรัฐสภาที่ได้รับเลือกตั้งแต่ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าทำหน้าที่ในสภาหลังจากกองทัพพม่ายึดอำนาจมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แถลงตอนเช้าวันอังคาร เรียกร้องให้ประชาชนพม่าทุกหมู่บ้าน ทุกเมือง และทั่วประเทศ ลุกขึ้นต่อต้านคณะปกครองทหารโดยพร้อมเพรียง พร้อมกับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
พม่าตกอยู่ในสถานการณ์อลหม่านวุ่นวายนับจากที่กองทัพล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งของอองซาน ซูจี ถึงแม้เวลานี้การก่อความไม่สงบในพื้นที่เขตชุมชนเมืองจะเหลืออยู่แค่ระดับต่ำ แต่ยังคงการสู้รบรุนแรงในพื้นที่ชนบท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่ชายแดนที่กองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์เข้าร่วมในการปะทะกันอย่างรุนแรงกับกองกำลังทหารของรัฐบาล
ทางด้าน มาน วิน ข่าย ตาน นายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเงาระบุในคำแถลงอีกฉบับที่โพสต์ลงบนออนไลน์ว่า ความเคลื่อนไหวคราวนี้เกิดขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจำเป็นต้องล้มล้างคณะปกครองทหารอย่างถอนรากถอนโคน
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ยังไม่ปรากฏสัญญาณว่า มีการสนองตอบจากประชาชน ถึงแม้นักศึกษาและองค์กรติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์บางกลุ่มประกาศร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันก็ตาม
ทั้งนี้ แม้รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติดูเหมือนได้รับการสนับสนุนจากประชาชน แต่ไม่สามารถวัดได้ว่า มีอำนาจและอิทธิพลอย่างแท้จริงแค่ไหน รวมทั้งขณะนี้ยังไม่ได้ครอบครองพื้นที่ใดๆ ไม่มีอำนาจควบคุมกองทัพใดๆ โดยตรง และไม่ได้รับการยอมรับทางการทูตจากนานาชาติ เท่าที่ผ่านมา เอ็นยูจีมักออกนโยบายกว้างๆ และประกาศว่า คณะปกครองทหารขาดความชอบธรรม ขณะที่พวกสมาชิกคณะรัฐมนตรีเงาต้องลี้ภัยหรือที่ยังอยู่ในพม่าก็ต้องคอยซ่อนตัว
ดูวา ลาชิ ลา เรียกร้องให้กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ ที่บางกลุ่มประกาศตนว่าเป็นพันธมิตรกับเอ็นยูจี ดำเนินการโจมตีกองกำลังของฝ่ายรัฐบาลทันที และควบคุมดินแดนของตนเองเอาไว้ให้เต็มที่
อย่างไรก็ดี กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในพม่า ซึ่งได้ต่อสู้เพื่อเพิ่มสิทธิการปกครองตนเองจากรัฐบาลกลางของพม่ามาหลายสิบปีแล้วนั้น มีการดำเนินการอย่างเป็นอิสระไม่เกี่ยวข้องกับเอ็นยูจี
รักษาการประธานาธิบดีของรัฐบาลเงาผู้นี้ ยังเรียกร้อง ‘การปฏิวัติของประชาชน’ และขอให้ทหารและตำรวจเข้าร่วม ‘กองกำลังป้องกันประชาชน’ และย้ำให้ข้าราชการเข้าร่วมการนัดหยุดงาน
ทั้งนี้ ขบวนการต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพ ได้ก่อให้เกิดการจัดตั้ง ‘กองกำลังป้องกันประชาชน’ ในหลายพื้นที่ แต่กองกำลังเหล่านี้ส่วนใหญ่ดำเนินการอยู่ในท้องถิ่น และดำเนินการในลักษณะกองโจรขนาดเล็ก
เขายังแนะนำให้ประชาชนระวังความปลอดภัยของตัวเอง งดเดินทางโดยไม่จำเป็น และตุนอาหารและยา เหมือนที่เคยออกประกาศเตือนมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้งว่า ประเทศกำลังจะเผชิญปัญหา และสำทับว่า ประชาชนควรช่วยเหลือกองกำลังติดอาวุธประชาชนเท่าที่ทำได้ ซึ่งรวมถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับกองกำลังของรัฐบาล
ในเดือนที่ผ่านมา มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งเป็นผู้นำการรัฐประหาร ประกาศเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลรักษาการที่ตั้งขึ้นใหม่ และบอกว่าจะจัดการเลือกตั้งภายในปี 2023
ขณะเดียวกัน สมาคมอาเซียน เดินหน้าความพยายามทางการทูตเพื่อยุติเหตุการณ์รุนแรงและเปิดการเจรจาระหว่างรัฐบาลทหารกับฝ่ายต่อต้าน
เอรีวัน ยูซอฟ ผู้แทนอาเซียนด้านกิจการพม่า ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเกียวโดว่า กองทัพพม่ายอมรับข้อเสนอหยุดยิงจนถึงสิ้นปีนี้ และรับรองว่า จะแจกจ่ายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ประชาชน
กระนั้น นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและสมาชิกเอ็นยูจีไม่ไว้ใจว่า รัฐบาลทหารจะทำตามสัญญาดังกล่าว ขณะที่โฆษกกองทัพพม่ายังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวการหยุดยิง
อย่างไรก็ตาม สื่ออิสระทางออนไลน์ที่รายงานข่าวเกี่ยวกับพม่าหลายรายบอกว่า หลังจากเอ็นยูจีประกาศให้ลุกขึ้นสู้คณะปกครองทหารแล้ว ในเมืองใหญ่ๆ หลายแห่ง มีประชาชนจำนวนมากเกรงว่ากำลังจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นอีกแล้ว พากันออกจากบ้านไปซื้อสินค้ากักตุนเพื่อเตรียมรับมือกันไว้ก่อน
ในเมืองย่างกุ้ง ซูเปอร์มาร์เกตหลายแห่ง โดยเฉพาะห้าง City Mart ซึ่งเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยยอดนิยม ประชาชนต่างเข้าไปซื้ออาหาร ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นกักตุนไว้ ไม่เพียงเท่านั้น กระทั่งในตลาดชุมชน ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของชำ ต่างก็มีผู้คนเข้าไปรุมซื้อสินค้าอยู่เต็มร้าน
เช่นเดียวกับสาขาของธนาคารต่างๆ ปรากฏว่าประชาชนจำนวนมากต่างพากันแห่ไปถอนเงินสดมาติดตัวไว้ เพราะเชื่อว่าหากเกิดการรบรากันขึ้นอีกจริงๆ การมีเงินสดติดตัวไว้ให้เพียงพอถือเป็นความจำเป็นอย่างที่สุด
ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เพจข่าวหลายแห่ง พร้อมใจนำเสนอภาพบรรยากาศความโกลาหลที่ปรากฏขึ้นในหลายๆ เมืองของพม่า |
แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์ |
กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน
