header-photo
 

ข่าวสารอาเซียน (ASEAN News)

 

‘ดูเตอร์เต’ ตอบรับชิงเก้าอี้ ‘รอง ปธน.ปินส์’ ต่อ หลังหมดวาระปีหน้า

ASEAN News

24 สิงหาคม 2564 :ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ตอบรับลงสมัครชิงรองประธานาธิบดีในศึกเลือกตั้งปี 2022 ซึ่งถือเป็นการปูทางให้ผู้นำขาโหดรั้งอำนาจบริหารต่อไปอีกอย่างน้อย 6 ปีภายหลังจากที่หมดวาระ

พรรครัฐบาล PDP-Laban ออกมาประกาศข่าวการตัดสินใจของดูเตอร์เตวันนี้ (24 ส.ค.) ก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่ของพรรคในวันที่ 8 ก.ย. ซึ่งคาดว่า ดูเตอร์เตจะได้รับการโหวตให้เป็นผู้สมัครรองประธานาธิบดีในนามของพรรค คู่กับคริสโตเฟอร์ ‘บอง’ โก ซึ่งจะลงชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดี

คาร์โล โนกราเลส รองประธานบริหารพรรค PDP-Laban แถลงว่า ดูเตอร์เต “ยอมเสียสละตนเอง” และรับฟัง “เสียงเรียกร้องของประชาชน”

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญฟิลิปปินส์กำหนดให้ประธานาธิบดีสามารถดำรงตำแหน่งได้เพียง 1 สมัย ซึ่งมีระยะเวลา 6 ปี และในส่วนของ ดูเตอร์เต เองก็จะหมดวาระในเดือน มิ.ย.ปีหน้า

โนกราเลส ชี้ว่า การลงสนามเลือกตั้งอีกครั้งของ ดูเตอร์เต “จะช่วยรับประกันความต่อเนื่องของโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ทำไว้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา” รวมถึงสงครามต่อต้านยาเสพติด

อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์บางคนเชื่อว่า ดูเตอร์เต จงใจเจตนายื้ออำนาจผ่านการดำรงตำแหน่งผู้นำเบอร์สอง หรืออาจจะเทกโอเวอร์เก้าอี้ประธานาธิบดีเสียเอง ในกรณีที่ โก ชนะเลือกตั้งและประกาศลาออก


 

ดูเตอร์เต วัย 76 ปี มักจะแสดงตัวว่าเป็นประธานาธิบดีที่ไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ และหลายครั้งที่เขาพูดว่าอยากจะให้ โก มารับหน้าที่ต่อจากตน ซึ่งการสนับสนุนจาก ดูเตอร์เต นี้เคยช่วยให้ โก คว้าเก้าอี้ ส.ว.ได้สำเร็จมาแล้วเมื่อปี 2019

โก เป็นที่ปรึกษาคนสนิทที่สุดของ ดูเตอร์เต มาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1990 ตอนที่ผู้นำขาโหดยังเป็น ส.ส.เมืองดาเวา

โก ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านสาธารณสุข เคยให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า “ผมยังไม่คิดเรื่องเป็นประธานาธิบดี ขอจัดการเรื่องวัคซีนก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องการเมือง”

ดูเตอร์เต เคยยอมรับว่าอยากจะปกป้องตนเองจากการถูกฟ้องหลังพ้นตำแหน่งผู้นำประเทศ ซึ่งอาจหมายถึงการถูกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ไต่สวนข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ สืบเนื่องจากนโยบายสงครามยาเสพติดของเขาซึ่งทำให้มีชาวฟิลิปปินส์ถูกล่าสังหารโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมไปหลายพันคน



แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์

กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน