header-photo
 

ข่าวสารอาเซียน (ASEAN News)

 

ศาลสิงคโปร์ตัดสินบล็อกเกอร์หมิ่นประมาท ‘นายกฯ ลี’ ชดใช้ค่าเสียหายร่วม 3 ล้านบาท

ASEAN News

24 มีนาคม 2564 :ศาลสูงสิงคโปร์พิพากษาให้บล็อกเกอร์รายหนึ่งชดใช้ค่าเสียหายแก่นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง เป็นเงิน 133,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือเกือบ 3 ล้านบาท ในความผิดฐานหมิ่นประมาท จากการที่จำเลยได้แชร์บทความกล่าวหานายกฯ ลี ว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับการฟอกเงินกองทุนฉาวของมาเลเซีย

ผู้นำสิงคโปร์ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนาย เหลียง ซื่อ เฮียน (Liang Sze Hian) ที่ปรึกษาด้านการเงิน สืบเนื่องจากการที่นาย เหลียง ได้นำบทความจากเว็บไซต์ข่าว The Coverage ของมาเลเซียมาแชร์ลงเฟซบุ๊กเมื่อเดือน พ.ย. ปี 2018 โดยที่บทความดังกล่าวมีการอ้างว่านายกฯ ลี พัวพันกับเครือข่ายฉ้อโกงเงินกองทุน วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB)

ทีมทนายของ ลี ระบุว่า บทความดังกล่าวเต็มไปด้วยข้อครหาที่ “ไม่ถูกต้องและไม่มีมูลความจริง” และยังกล่าวหา เหลียง ว่าจงใจแชร์โพสต์ดังกล่าวเพื่อทำลายชื่อเสียงของผู้นำประเทศ ขณะที่ เหลียง ก็ได้ลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งหลังจากที่แชร์ไปได้เพียง 3 วัน

ผู้พิพากษา เอดิต อับดุลเลาะห์ ระบุในคำตัดสินว่า เหลียง “ไม่สามารถอ้างอย่างมีเหตุผลได้ว่า ถ้อยคำดูหมิ่นเหล่านั้นไม่เป็นการกล่าวหา” นายกฯ ลี เนื่องจากบทความดังกล่าวมีการระบุชัดเจนว่านายกฯ สิงคโปร์ “อย่างน้อยที่สุดก็เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอาญาร้ายแรง”

 

ผู้พิพากษาระบุด้วยว่า โพสต์ของ เหลียง ถูกตั้งค่าเป็นสาธารณะ และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึง 45 คน

เหลียง อ้างว่าเขา “แค่แชร์” บทความดังกล่าวโดยไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือปรับแก้เนื้อหาเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังปฏิเสธข้อครหาที่ว่าตนมีเจตนามุ่งร้ายต่อนายกฯ ลี

เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของ ลี แถลงว่า คำตัดสินดังกล่าวเป็นดุลยพินิจของศาล และนายกฯ ไม่มีอะไรจะกล่าวเพิ่มเติมอีก

ด้านนาย เหลียง ให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกโล่งใจที่คดีนี้มาถึงจุดจบเสียที แต่ก็ยอมรับว่าผิดหวังกับคำตัดสินของศาล และเตรียมที่จะขอคำปรึกษาทางด้านกฎหมาย รวมถึงรับฟังความเห็นจากชาวสิงคโปร์คนอื่นๆ

ในฐานะผู้นำรัฐบาลที่ประกาศนโยบาย “ความอดทนเป็นศูนย์” กับการทุจริตคอร์รัปชัน ลี เซียนลุง วัย 69 ปี เคยใช้กลไกทางกฎหมายปกป้องชื่อเสียงของตนมาแล้วหลายครั้ง ในขณะที่บรรดาผู้นำอาวุโสของพรรคกิจประชาชน (PAP) ซึ่งรวมถึง ลี กวนยู บิดาของนายกฯ ลี ก็เคยฟ้องร้องเอาผิดกับสื่อต่างชาติ, ศัตรูทางการเมือง รวมถึงบุคคลที่โพสต์ข้อความดูหมิ่นทางออนไลน์มาแล้วด้วย

 

แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์

กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน