header-photo
 

ข่าวสารอาเซียน (ASEAN News)

 

กองทัพปินส์ฮึ่ม! ‘ดูเตอร์เต’ ขู่แยกดินแดนภาคใต้ เซ่นปมเกาเหลา ‘มาร์กอสจูเนียร์’

ASEAN News

6 กุมภาพันธ์ 2567 :  รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ประกาศกร้าวเมื่อวันจันทร์ (5 ก.พ.) ว่าจะป้องกันอธิปไตยของชาติอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่อีกหลายคนซึ่งออกมาแสดงจุดยืนปกป้องบ้านเมือง หลังอดีตประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ขู่จะ “แยกดินแดน” ภาคใต้เป็นอิสระ

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ดูเตอร์เต ออกมาเรียกร้องให้เกาะมินดาเนาซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาแยกตัวเป็นอิสระจากฟิลิปปินส์ หลังข้อตกลงจับขั้วเป็นพันธมิตรระหว่างตระกูลดูเตอร์เตกับประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ส่อแววล่มสลายจากความไม่ลงรอยกันในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ

“หน้าที่ของกระทรวงกลาโหมคือการป้องกันอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ” กิลเบอร์โต ทีโอโดโร รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ระบุในคำแถลง

“เราจะปฏิบัติภารกิจนี้อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภายในหรือภายนอกประเทศก็ตาม”

คำพูดของทีโอโดโร สอดคล้องกับถ้อยแถลงของที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติฟิลิปปินส์เมื่อวันอาทิตย์ (4) ที่ระบุว่า รัฐบาล “จะไม่ลังเลในการใช้อำนาจและกำลังพลเพื่อยับยั้งความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะแบ่งแยกสาธารณรัฐ”

ด้านกระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์ก็ร่วมแสดงจุดยืนในวันจันทร์ (5) ว่า กระทรวง “ขอต่อต้านความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะบ่อนทำลายบูรณภาพแห่งดินแดน และขอให้ชาวฟิลิปปินส์ทุกคนปฏิเสธแนวคิดเรื่องการแยกตัว”

ดูเตอร์เต เคยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนแรกที่มาจากเกาะมินดาเนา โดยเกาะแห่งนี้แม้จะรุ่มรวยไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ แต่กลับเผชิญเหตุความไม่สงบและความขัดแย้งระหว่างรัฐกับกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงมานานหลายสิบปี ซึ่งความไม่สงบนี้ได้กลายเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนและทำให้ชาวบ้านหลายชุมชนยังคงมีฐานะยากจน

 

โรมีโอ บราวเนอร์ ผู้บัญชาการกองทัพฟิลิปปินส์ ได้กล่าวย้ำกับกำลังพลระหว่างไปเยือนค่ายทหารที่เกาะมินดาเนาเมื่อวันอาทิตย์ (4) ว่า “พวกเราได้ให้คำสัตย์สาบานแล้วว่าจะยึดมั่นในสายบังคับบัญชา ซื่อตรงต่อรัฐธรรมนูญ และต่อรัฐบาลซึ่งมีที่มาอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ขอเราจงแสดงให้เห็นว่าด้วยความเข้มแข็งและความเป็นหนึ่งเดียวกับกองทัพ เราจะมีประเทศฟิลิปปินส์ที่เข้มแข็งและเป็นหนึ่งเดียว”

แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์

กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน