 ปัญหาแรงงาน-โครงสร้างพื้นฐานขวางการลงทุนขั้นสูงในเวียดนาม
|
8 กันยายน 2566 : ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนกรุงฮานอยในวันอาทิตย์ (10) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ในขณะที่วอชิงตันพยายามที่จะลดการการพึ่งพาจีน แต่การขาดแรงงานทักษะสูงและจุดอ่อนด้านโครงสร้างพื้นฐาน หมายความว่าเวียดนามอาจต้องพยายามอย่างหนักเพื่อแทนที่ประเทศเพื่อนบ้าน
เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับบริษัทชั้นนำของโลกบางราย ที่รวมถึงซัมซุง และฟ็อกซ์คอนน์ ที่เป็นซัปพลายเออร์ของแอปเปิล เนื่องจากความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน
หลายบริษัทได้ขยายการลงทุนเข้าไปในเวียดนาม ที่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธทางธุรกิจ ‘จีนบวกหนึ่ง’ และวอชิงตันมองว่าฮานอยเป็นพันธมิตรสำคัญ ด้วยพยายามที่จะลดการพึ่งพาจีนหลังห่วงโซ่อุปทานส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกในช่วงหลายปีมานี้
แต่ในเขตอุตสาหกรรมในเมืองหายฝ่อง (Haiphong) เมืองท่าทางตอนเหนือของเวียดนาม โค แท ยอน ผู้อำนวยการของบริษัท Heesung Electronics Vietnam ที่ผลิตส่วนประกอบสำหรับจอแสดงผลของ LG รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนวิศวกรที่มีทักษะ
“ผมคาดการณ์ว่าจะมีการขาดแคลนกำลังคน นักลงทุนต่างชาติกำลังมองไปที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่จำนวนสถาบันที่ฝึกอบรมวิศวกรยังมีน้อยมาก” โค แท ยอน กล่าวกับเอเอฟพี ก่อนที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทจะย้ายมาจากเกาหลีใต้
ในขณะที่เวียดนามมีคนที่มีทักษะในการผลิตเสื้อผ้าและผลิตชิ้นส่วนง่ายๆ สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อยู่เป็นจำนวนมาก แต่ผู้นำอุตสาหกรรมคาดการณ์ถึงปัญหาเมื่อประเทศต้องการก้าวไปสู่ห่วงโซ่คุณค่า
“เวียดนามเป็นสถานที่ที่ดีในการสร้างสิ่งต่างๆ แต่หากต้องการดึงดูดการลงทุนนี้ทั้งหมดต่อไปเพื่อสร้างโอกาสของความมั่งคั่งและการเติบโตทางเศรษฐกิจ พวกเขาจำเป็นต้องเพิ่มการพัฒนา” อดัม ซิตคอฟฟ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหอการค้าอเมริกาในฮานอย กล่าวกับเอเอฟพี
กระทรวงแรงงานระบุว่ามีเพียง 11% ของกำลังแรงงานภายในประเทศที่มีทักษะสูง ขณะที่ 26% เป็นแรงงานที่ผ่านการฝึกอบรมพร้อมวุฒิบัตรและประกาศนียบัตร
นครโฮจิมินห์เพียงเมืองเดียวต้องการแรงงานทักษะเพิ่มอีก 165,000 คนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ตามการระบุของศูนย์พยากรณ์ความต้องการกำลังคนและแรงงานของเมือง
นักวิเคราะห์กล่าวว่ายังมีปัญหาร้ายแรงอื่นๆ ที่ประเทศต้องจัดการ รวมถึงเครือข่ายถนนและโครงข่ายไฟฟ้าที่ต้องตอบสนองให้เพียงพอกับความต้องการ
ธนาคารโลกระบุว่าคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานของเวียดนามยังตามหลังหลายประเทศในเอเชีย
ความหนาแน่นของทางด่วนถือเป็นความหนาแน่นที่ต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค ขณะที่ต้นทุนการขนส่งทางถนนสูงที่สุด
“ช่องว่างของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะจำกัดความสามารถของเวียดนามในการดึงดูดและรักษาการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) รวมถึงผู้ที่มองหาการย้ายฐานจากจีน” องค์กรผู้บริจาคพหุภาคีระบุในรายงานเมื่อเดือนก่อน
รายงานยังเตือนว่าความมั่นคงทางด้านพลังงานจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริม หลังจากปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในเดือนพ.ค. และเดือนมิ.ย. ส่งผลให้ประเทศเสียหายถึง 1,400 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ธุรกิจในภาคเหนือรายงานว่าขาดทุนมากถึง 10% ของรายได้
เวียดนามดึงดูดโครงการการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ 18,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้นมากกว่า 8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ตามการรายงานของสำนักงานการลงทุนต่างประเทศในฮานอย
ในเดือนมิ.ย. บริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ประกาศแผนการผลิตอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่โรงงานแห่งใหม่ในภาคเหนือ ในขณะที่บริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนามูลค่า 220 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
ด้วยความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน เหวียน แอ็ง ต่วน รองผู้อำนวยการสำนักงานการลงทุนต่างชาติยอมรับว่าเวียดนามกำลังรู้สึกกดดัน
“เราจะใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ทั้งหมดได้อย่างไร?” เหวียน แอ็ง ต่วน กล่าว
เขากล่าวว่าประเทศกำลังมุ่งความสนใจไปที่การสร้างแรงงานทักษะสูงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เซมิคอนดักเตอร์ และพลังงาน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังต้องรักษาความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาคไว้
“แต่ความคาดหวังเรื่องเงินเดือนที่เพิ่มสูงขึ้นในหมู่ประชากรวัยหนุ่มสาวของประเทศ นั่นทำให้เราอาจไม่สามารถตั้งเป้าที่จะจัดหาแรงงานราคาถูกได้อีกต่อไป” เหวียน แอ็ง ต่วน กล่าว
ประเด็นดังกล่าวอาจเป็นปัญหาสำหรับบางคน แต่ที่จ.วิงฟุ้ก ทางตอนเหนือของเวียดนาม บริษัท Northstar Precision ที่เป็นบริษัทในเครือของ Polaris ผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติอเมริกัน กำลังสร้างโรงงานมูลค่า 40 ล้านดอลลาร์ ที่เป็นโรงงานแห่งที่ 2 ในเวียดนาม ซึ่งเป็นฐานการผลิตในเอเชียเพียงแห่งเดียวของบริษัทนอกประเทศจีน
การผลิตรถจักรยานยนต์สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ Polaris เริ่มมองหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากจีน เนื่องจากอัตราภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บ และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น
“เวียดนามยังคงสามารถแข่งขันได้สูงเมื่อเทียบกับต้นทุนเหล่านั้น” ผู้อำนวยการของ Northstar Precision กล่าว ขณะที่คนงาน 2 คนด้านหลังกำลังประกอบช่วงล่างของรถจักรยานยนต์อย่างชำนาญ. |
แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์ |
กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน
