ธนาคารโลกชี้วิกฤตพลังงานทำเวียดนามเสียหาย $1,400 ล้าน
|
11 สิงหาคม 2566 : ธนาคารโลกระบุว่า ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าอย่างรุนแรงในเวียดนามเนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดและภัยแล้งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเดือน พ.ค. และเดือน มิ.ย. สร้างความสูญเสียต่อประเทศเป็นมูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์
ภาคเหนือของเวียดนามเผชิญปัญหาการตัดกระแสไฟฟ้าและไฟฟ้าดับกะทันหัน ที่ทำให้โรงงานหลายแห่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยที่บางธุรกิจได้รับแจ้งน้อยมากหรือไม่มีการแจ้งเตือนเลย
เวียดนามเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานสำหรับบริษัทสำคัญที่สุดของโลกบางบริษัท และหลายบริษัทรวมถึงซัมซุง และฟ็อกซ์คอนน์ ที่เป็นซัปพลายเออร์ของแอปเปิล มีโรงงานตั้งอยู่ทางภาคเหนือ ไม่ไกลจากกรุงฮานอย
ธนาคารโลกระบุว่า การขาดดุลอุปสงค์สูงสุดที่ประมาณ 1.8 กิกะวัตต์ ทำให้ธุรกิจในภาคเหนือสูญเสียรายได้มากถึง 10% ตามรายงานการสำรวจอุตสาหกรรมขนาดเล็กในเดือน ส.ค.
“การประมาณการเบื้องต้นของต้นทุนทางเศรษฐกิจสำหรับปัญหาไฟฟ้าดับในเดือน พ.ค.-มิ.ย. อยู่ที่ประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.3% ของจีดีพี” ธนาคารโลกระบุในรายงาน
เวียดนามต้องต่อสู้กับคลื่นความร้อนต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. ที่อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ขณะที่แม่น้ำและอ่างเก็บน้ำในโรงงานไฟฟ้าเหือดแห้ง
ประเทศพึ่งพาเขื่อนไฟฟ้าเกือบครึ่งหนึ่งของความต้องการพลังงานของประเทศ ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 8% ต่อปีโดยเฉลี่ย
รัฐบาลตั้งเป้าลดการใช้พลังงานลง 2% ต่อปี จนถึงปี 2568 และยังให้คำมั่นที่จะยกเลิกการผลิตพลังงานโรงงานไฟฟ้าถ่านหินภายในปี 2593 ที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
“จำเป็นต้องมีการดำเนินการโดยด่วนเพื่อลดความเสี่ยงในอนาคตต่อความมั่นคงด้านพลังงานและความสูญเสียทางเศรษฐกิจ” ธนาคารโลกเรียกร้องต่อทางการในรายงาน
นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าสภาพอากาศสุดขั้วทวีความรุนแรงขึ้นเพราะภาวะโลกร้อน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปีนี้เริ่มดีขึ้นในช่วงต้นเดือน ก.ค. หลังจากมีฝนตกหนัก. |
แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์ |
กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน