 อินโดฯ เสนอ ‘ตั้งเขตปลอดทหาร-ให้ UN จัดประชามติ’ ดับไฟสงครามรัสเซีย-ยูเครน
|
3 มิถุนายน 2566 : รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียออกมาเสนอแผนสันติภาพเพื่อยุติการสู้รบในยูเครน โดยให้มีการจัดตั้งเขตปลอดทหาร (demilitarised zone) และมอบหมายให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้ามาเป็นคนกลางจัดทำประชามติตัดสินอนาคตของดินแดนซึ่งเขาเรียกว่าเป็น “พื้นที่พิพาท”
พล.อ.ปราโบโว สุเบียนโต รัฐมนตรีกลาโหมแดนอิเหนา ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่กลาโหมทั่วโลกซึ่งเดินทางมาร่วมการประชุมด้านความมั่นคง แชงกรี-ลา ไดอะล็อก (Shangri-La Dialogue) ที่สิงคโปร์ ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง
แผนสันติภาพที่อินโดนีเซียเสนอยังรวมถึงการให้คู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่ายทำข้อตกลง “หยุดยิง” ในฐานที่มั่นปัจจุบัน จัดตั้งเขตปลอดทหารโดยให้กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่ายล่าถอยออกมาจากแนวหน้าเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร และให้ยูเอ็นส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปกำกับดูแลพื้นที่ดังกล่าว
พล.อ.ปราโบโว ยังเสนอให้ยูเอ็นจัดทำประชามติ “เพื่อให้ทราบถึงความปรารถนาที่แท้จริงของประชากรส่วนใหญ่ในพื้นที่พิพาทเหล่านั้น”
“ผมขอเสนอให้ที่ประชุมแชงกรี-ลา ไดอะล็อกแสวงหาช่องทางเพื่อออกคำแถลงร่วมโดยสมัครใจ (voluntary declaration) เรียกร้องให้ทั้งยูเครนและรัสเซียเริ่มต้นกระบวนการเจรจาสันติภาพในทันที”
ข้อเสนอของอินโดนีเซียมีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ได้เดินทางเยือนทั้งมอสโกและเคียฟ และเสนอตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างผู้นำทั้ง 2 ชาติ โดยในขณะนั้น วิโดโด ยังดำรงตำแหน่งประธานการประชุมกลุ่ม G20 ด้วย
ด้าน โจเซป บอร์เรลล์ ฟอนแตลส์ ผู้แทนระดับสูงและรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้กล่าวบนเวทีเดียวกันว่า หากยูเครนไม่ได้รับการสนับสนุนทางทหารจากภายนอก สงครามอาจจบเร็วก็จริง แต่จบด้วยการที่อธิปไตยของยูเครนต้องล่มสลาย
“เราจึงไม่อาจหยุดมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนได้ เพราะเราไม่ต้องการสันติภาพในแบบของผู้ยอมแพ้... สันติภาพของผู้ที่เข้มแข็งกว่า” บอร์เรลล์ กล่าว
ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้ยื่นแนวทางสันติภาพ 10 ประการของตนเองเช่นกัน โดยหนึ่งในนั้นกำหนดให้รัสเซียต้องถอนทหารทั้งหมดออกไปจากดินแดนยูเครน
อิฮอร์ ซอฟควา (Ihor Zhovkva) ที่ปรึกษาด้านการทูตอาวุโสของยูเครน ยืนยันว่ารัฐบาลเคียฟจะไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงใดๆ ที่ยังคงปล่อยให้รัสเซียยึดดินแดนของพวกเขาต่อไป |
แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์ |
กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน
