ข่าวสารอาเซียน (ASEAN News)
|
 |
18 ธันวาคม 2558 : สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ว่า กลุ่มเจ้าของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าในกัมพูชา ร้องเรียนนายกรัฐมนตรีเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อขอให้ช่วยหยุดยั้งการผละงานประท้วง เรียกร้องขอขึ้นค่าแรงของกลุ่มคนงาน โดยระบุการประท้วงทำลายบรรยากาศการลงทุนในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของภาคการส่งออกของประเทศ ตัวแทนสมาคมผู้ผลิตสิ่งทอในกัมพูชา (จีเอ็มเอซี) ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรี หลังจากคนงานในจังหวัดสวายเรียง ทางภาคตะวันออก ปักหลักผละงานประท้วงเมื่อวันพุธ เพื่อขอขึ้นค่าแรงอีก 20 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นเดือนละ 148 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,320 บาท) กลุ่มเจ้าของโรงงาน กล่าวว่า การประท้วงทำให้เกิดการบาดเจ็บ อาคารสถานที่ได้รับความเสียหายหนัก แต่ นายเชียง โอม ผู้ว่าราชการจังหวัดสวายเรียง กล่าวว่า เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อย และจำกัดเพียงแค่โรงงานแห่งเดียว โดยการประท้วงซึ่งแกนนำสหภาพแรงงานระบุว่า มีคนงานเข้าร่วมไม่ถึง 30,000 คน ยุติลงในวันพฤหัสบดี (17 ธ.ค.) เมื่อกลุ่มคนงานตกลงรอฟังคำตอบจากรัฐบาล ในจดหมายเปิดผนึกที่ส่งถึง สมเด็จ ฮุนเซน กลุ่มเจ้าของโรงงานกล่าวว่า การประท้วงรุนแรงทำลายความรู้สึกของนักลงทุนอย่างยิ่ง รวมทั้งต่อมุมมองของการลงทุนในระยะยาว นอกจากนั้น การประท้วงเมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้การผลิตในเขตเศรษฐกิจพิเศษแมนฮัตตัน ศูนย์กล่างของการประท้วง ต้องยุติลงโดยสิ้นเชิง สร้างความสูญเสียคิดเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ปัญหาค่าแรงเป็นประเด็นอ่อนไหวในกัมพูชา ซึ่งมีคนงานประมาณ 700,000 คน ทำงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตรองเท้ากว่า 700 แห่งทั่วประเทศ ในปี 2557 กัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์เหล่านี้ รวมมูลค่าประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรป ปัจจุบันแกนนำสหภาพแรงงานพยายามต่อรอง ขอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นเดือนละ 160 ดอลลาร์สหรัฐ (5,751 บาท) ในปี พ.ศ. 2559 แต่เจ้าของโรงงานส่วนใหญ่ยอมตกลงที่เดือน 140 ดอลลาร์ (5,032 บาท). |
|
แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เดลินิวส์ |
