header-photo
 

ข่าวสารอาเซียน (ASEAN News)

 

“ฮุนเซน” ลั่นไม่อดทนต่อการชุมนุมของสหภาพแรงงาน-ฝ่ายค้านอีกต่อไป

ASEAN News

4 มีนาคม 2557 : ซินหวา - นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา กล่าวย้ำในวันนี้ (4) ว่า รัฐบาลจะไม่อดทนต่อการผละงาน หรือจัดชุมนุมประท้วงผิดกฎหมายของฝ่ายค้าน และสหภาพแรงงานแนวร่วมฝ่ายค้านอีกต่อไป

นายกรัฐมนตรีฮุนเซน กล่าวในที่ประชุมภาครัฐ-เอกชน ครั้งที่ 17 ว่า พรรคฝ่ายค้านและสหภาพแรงงานแนวร่วมได้ใช้นักปลุกระดมยั่วยุปลุกปั่นแรงงานโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปให้ผละงานและชุมนุมประท้วงผิดกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าแรงสูงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล

“พวกเขาใช้แรงงานเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่มีเป้าหมายบ่อนทำลายบรรยากาศการลงทุนและทำลายผลประโยชน์ของแรงงาน และโอกาสในการทำงานของคนหนุ่มสาว” ฮุนเซน กล่าวในที่ประชุม ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้แทนทางธุรกิจ ผู้แทนทางการทูตและคู่ค้า เข้าร่วมกว่า 400 คน

“ถึงตอนนี้ กลุ่มหัวรุนแรงยังคงไม่หยุดดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมาย และมีคนนอกสนับสนุนคนกลุ่มนี้และกิจกรรมของคนเหล่านี้” ผู้นำกัมพูชา กล่าว

 

 

“รัฐบาลกัมพูชาต้องการที่จะยืนยันว่าการดำเนินการของสิทธิและเสรีภาพในการเรียกร้องจะดำเนินขึ้นภายใต้กฎหมาย กิจกรรมใดๆ ก็ตาม ที่ละเมิดกฎหมายจะไม่มีการยินยอมผ่อนปรนอีกต่อไป”

พรรคกู้ชาติกัมพูชา และสหภาพแรงงานแนวร่วมฝ่ายค้าน 6 กลุ่ม จัดชุมนุมประท้วงขึ้นหลายครั้งนับตั้งแต่การเลือกตั้งในเดือน ก.ค.2556 ที่ระบุว่า ชัยชนะตกเป็นของพรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน

การชุมนุมประท้วงรุนแรง 2 ครั้งในวันที่ 2 ม.ค. และ 3 ม.ค. ทำให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิต 4 คน และมีผู้ถูกจับกุมตัวอีก 21 คน

ประธานสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในกัมพูชา (GMAC) ได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลสำหรับการฟื้นฟูสันติภาพและความสงบในเดือน ม.ค. และนำมาซึ่งการยุติพฤติกรรมผิดกฎหมายของสหภาพแรงงานส่วนน้อย พร้อมระบุว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะมีได้ก็ต่อเมื่อมีความสงบและความสามัคคีปรองดองในภาคอุตสหากรรม

รายงานระบุว่า การชุมนุมประท้วงผิดกฎหมายระหว่างวันที่ 24 ธ.ค. ถึงวันที่ 3 ม.ค. ทำให้ทรัพย์สินโรงงานได้รับความเสียหายเป็นมูลค่า 75 ล้านดอลลาร์

อุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป และรองเท้า ถือเป็นแหล่งรายได้จากต่างชาติแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยในปี 2556 ภาคส่วนนี้ทำรายได้เข้าประเทศถึง 5,530 ล้านดอลลาร์.

แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์ .    

กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน