header-photo
 

ข่าวสารอาเซียน (ASEAN News)

 

อิเหนาปิดสนามบิน-อพยพคนนับหมื่น หลัง ‘ภูเขาไฟรวง’ ปะทุรุนแรง-เตือนความเสี่ยงเกิด ‘สึนามิ’

ASEAN News

18 เมษายน 2567 :  หน่วยกู้ภัยอินโดนีเซียเร่งอพยพชาวบ้านกว่า 10,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยวันนี้ (18 เม.ย.) หลังภูเขาไฟรวง (Ruang) ในจังหวัดสุลาเวสีเหนือเกิดการปะทุถึง 5 ครั้งติด ทำให้ต้องมีการสั่งปิดสนามบิน และเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังอันตรายจากก้อนหินขนาดใหญ่ที่อาจร่วงตกลงมาจากฟ้า หรือการพังถล่มของภูเขาไฟซึ่งอาจก่อคลื่นสึนามิได้

ปากปล่องภูเขาไฟรวงส่องสว่างไปด้วยแสงเพลิงจากธารลาวาร้อนจัด โดยมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นเป็นฉากหลัง หลังจากที่ภูเขาไฟลูกนี้เกิดการปะทุ 4 ครั้งเมื่อวันพุธ (17) จนทำให้หน่วยงานรัฐตัดสินใจยกระดับเตือนภัยสู่ขั้นสูงสุดจากทั้งหมด 4 ระดับ

ภูเขาไฟรวงซึ่งตั้งอยู่ในเขตรอบนอกของหมู่เกาะอินโดนีเซียยังคงปลดปล่อยกลุ่มควันเถ้าถ่านหนาทึบขึ้นสู่ท้องฟ้าในเช้าวันนี้ (18) กระทั่งต้องมีการสั่งปิดท่าอากาศยานยานาชาติในเมืองมานาโด (Manado) เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

 

เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างเร่งอพยพประชาชนราว 11,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งรวมถึงเกาะตากูลันดัง (Tagulandang) ที่มีชาวบ้านอยู่อาศัยประมาณ 20,000 คน

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่า เมื่อคืนนี้เริ่มมีชาวบ้านที่พยายามเก็บข้าวของอพยพหนีด้วยความตื่นกลัวแล้ว

“เมื่อคืนนี้ชาวบ้านพยายามหนีกันเองแบบไม่รู้ทิศรู้ทาง เนื่องจากภูเขาไฟระเบิดรุนแรง และมีเศษก้อนหินตกลงมาจากฟ้าด้วย” จันดรี แพนดอง เจ้าหน้าที่จากสำนักงานกู้ภัยและช่วยชีวิตประจำท้องถิ่นแถลงวันนี้ (18) พร้อมยืนยันว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ 20 คนไปช่วยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตลอดแนวชายฝั่งใกล้ๆ ภูเขาไฟให้อพยพลงเรือยางแล้ว

ทางการยังได้ประกาศพื้นที่ห้ามเข้าในรัศมี 6 กิโลเมตรจากปากปล่องภูเขาไฟ และเตือนให้เฝ้าระวังความเสี่ยงเกิดคลื่นสึนามิ

“ชุมชนบนเกาะตากูลันดัง โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่ง จำเป็นต้องเฝ้าระวังก้อนหินที่ร่วงหล่น เถ้าถ่านร้อน หรือคลื่นสึนามิซึ่งเกิดจากการพังถล่มของตัวภูเขาไฟลงสู่ทะเล” เฮนดรา กูนาวัน หัวหน้าสำนักงานภูเขาไฟวิทยาของอินโดนีเซีย ระบุในคำแถลงเมื่อวันพุธ (17)

ย้อนไปเมื่อปี 2018 ปากปล่องภูเขาไฟอานักกรากะเตา (Anak Krakatoa) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเกาะชวาและเกาะสุมาตราได้พังทลายจากการระเบิดที่รุนแรง ทำให้บางส่วนของภูเขาไฟพังถล่มลงไปในมหาสมุทร และก่อคลื่นยักษ์ซัดเข้าฝั่งคร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 400 คน รวมถึงทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกหลายพันคน
แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์

กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน