header-photo
 

ข่าวสารอาเซียน (ASEAN News)

 

รัฐมนตรีเวียดนามย้ำนโยบายประเทศไม่เปลี่ยนแปลงแม้ประธานาธิบดีลาออก

ASEAN News

27 มีนาคม 2567 :  รัฐมนตรีต่างประเทศของเวียดนามกล่าวว่า การลาออกของประธานาธิบดีคนที่ 2 ของประเทศในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปีนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศและเศรษฐกิจของฮานอย

บุ่ย แถ่ง เซิน ที่อยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการลาออกของหวอ วัน เถือง เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเซินได้กล่าวกับสถาบันคลังสมอง Brookings Institution ในกรุงวอชิงตันว่า เวียดนามกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ที่ได้รับการตอบรับจากประชาคมระหว่างประเทศและภาคธุรกิจ

“ผมคิดว่าการลาออกของประธานาธิบดีในเวียดนามไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายของเราตลอดจนนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ หากมองดูสถานการณ์ในเวียดนาม เรามีผู้นำร่วม เรามีนโยบายต่างประเทศร่วม เรามีการพัฒนาเศรษฐกิจที่ตัดสินใจร่วมกัน” รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามกล่าว

เซินอ้างถึงการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ที่มีการกำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและตกลงร่วมกันในหมู่ผู้นำพรรค

“และผมคิดว่า ไม่ว่าผู้นำหนึ่งคนหรือสองคนลาออก ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้” บุ่ย แถ่ง เซิน กล่าวย้ำ

เซิน ที่ร่วมการประชุมในกรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์กับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และซาแมนธา เพาเวอร์ ผู้อำนวยการ USAID กล่าวว่า เวียดนามหวังว่าวอชิงตันจะยอมรับเวียดนามในฐานะประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบตลาดโดยเร็ว

 

ปัจจุบัน สหรัฐฯ ถือว่าเวียดนามเป็นเศรษฐกิจที่ไม่ใช่ตลาด ที่อาจนำไปสู่การกำหนดภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการนำเข้าสินค้า และเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำกรุงวอชิงตันเตือนในปีนี้ว่า การกำหนดอัตราภาษีกับสินค้าของเวียดนามที่เป็นผลจากสถานะดังกล่าวนั้นจะส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ใกล้ชิดขึ้น เซินกล่าวว่าสหรัฐฯ และเวียดนามควรส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน หลังจากตกลงเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ครอบคลุมเมื่อปีที่แล้ว

“เราควรมุ่งเน้นที่ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจดิจิทัล พลังงาน เศรษฐกิจสีเขียว และโลจิสติกส์” เซิน กล่าว

การลาออกของเถืองทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเสถียรภาพในเวียดนาม เนื่องจากเขาเพิ่งได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อปีที่แล้วหลังจากผู้นำคนก่อนถูกถอดอย่างกะทันหัน

ด้วยมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสะสมสูงกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ เสถียรภาพของเวียดนามจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบริษัทข้ามชาติที่มีการดำเนินงานขนาดใหญ่ในศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ที่รวมถึงบริษัทแอปเปิลที่มีซัปพลายเออร์สำคัญหลายรายในประเทศ

นักวิเคราะห์กล่าวว่า เสถียรภาพดังกล่าวที่รับประกันมานานหลายสิบปีโดยรัฐที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยพรรคคอมมิวนิสต์ เวลานี้ดูไม่แน่นอน แม้ว่าพวกเขาจะเห็นพ้องกันว่าการเปลี่ยนผู้นำในปัจจุบันจะไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายหลักของประเทศ ที่รวมถึงการทูตไผ่ลู่ลม ที่มุ่งรักษาความสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐฯ และจีน ในช่วงเวลาเดียวกัน

เซินกล่าวว่าเวียดนามแสวงหาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศมหาอำนาจสำคัญๆ ทั้งหมด และยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนให้มั่นคง.

แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์

กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน